ในช่วงเวลาที่วงการฟุตบอลสเปนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือคำพูดของ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ระดับตำนานของ เรอัล มาดริด ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับแนวทางการเล่นของ บาร์เซโลนา ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในฤดูกาลนี้ โดยโครสมองว่าสไตล์การเล่นของบาร์ซ่ายุคใหม่มีความ “เสี่ยงเกินไป” ทั้งในเชิงแท็กติกและการบริหารความสมดุลของทีม ซึ่งอาจกลายเป็นดาบสองคมในระยะยาว
คำพูดของโครสกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสื่อสเปนและยุโรป เพราะทุกครั้งที่เขาพูดถึงฟุตบอล มักได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างกว้างขวาง ด้วยสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในกองกลางที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป การผ่านประสบการณ์ในบุนเดสลีกา, ลาลีกา และทีมชาติเยอรมนี ทำให้ความคิดเห็นของเขามีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงโค้ชอย่างฟลิค ซึ่งเป็นอดีตนายใหญ่ของทีมชาติเยอรมนีและบาเยิร์น มิวนิค ทีมที่โครสเองก็เคยมีประสบการณ์ร่วมในอดีต
โครสกล่าวในพอดแคสต์ส่วนตัวว่า “ผมเคารพฮันซี่ ฟลิค เขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม มีปรัชญาการเล่นที่ชัดเจน แต่ในตอนนี้ผมมองว่าบาร์เซโลนากำลังเล่นด้วยความเสี่ยงมากเกินไป พวกเขาพยายามเล่นเกมบุกแบบเต็มรูปแบบ เปิดพื้นที่มากเกินจำเป็น และในบางเกมคุณจะเห็นว่าคู่แข่งสามารถเจาะช่องว่างเหล่านั้นได้ง่ายเกินไป ฟุตบอลในระดับสูงไม่ใช่แค่การบุกอย่างสวยงาม แต่ต้องมีสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับ ซึ่งดูเหมือนว่าบาร์ซ่ายุคนี้ยังไม่ลงตัวในจุดนั้น”
คำพูดของโครสแม้จะไม่ได้มีเจตนาวิพากษ์ในเชิงลบ แต่สื่อหลายสำนักก็นำไปขยายต่อว่าเขากำลังเตือนถึงความเปราะบางของบาร์ซ่าในยุคฟลิค ซึ่งเน้นการเล่นเกมรุกอย่างเต็มรูปแบบในระบบที่คล้ายกับ “gegenpressing” หรือการเพรสซิ่งสูงแบบเยอรมันที่เน้นการบีบพื้นที่ตั้งแต่แดนหน้า ฟลิคใช้ระบบนี้อย่างประสบความสำเร็จในบาเยิร์น มิวนิค โดยเฉพาะในปี 2020 ที่ทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ แต่โครสมองว่าการนำระบบนี้มาใช้ในลาลีกาที่มีลักษณะของเกมแตกต่างออกไป อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่หลายคนคาด
ในแง่แท็กติก บาร์เซโลนาในยุคของฟลิคพยายามปรับสไตล์ให้เน้นความรวดเร็ว การส่งบอลสั้นต่อเนื่องผสมกับการเคลื่อนที่แบบไดนามิก แทนที่จะเน้นการครองบอลแบบ “ติกิ-ตาก้า” อย่างในยุคเป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือซาบี เอร์นานเดซ โค้ชคนก่อน ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนผ่านเช่นนี้ต้องใช้เวลา และผู้เล่นต้องเรียนรู้วิธีการใหม่ทั้งหมด โครสยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็เตือนว่าการเร่งรัดอาจทำให้ทีมขาดความสมดุลในบางจังหวะ
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณไม่สามารถเปลี่ยน DNA ของทีมในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ฟุตบอลของบาร์เซโลนามีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองมานานหลายทศวรรษ การนำระบบเพรสซิ่งสูงแบบเยอรมันมาใช้ต้องมีวัตถุดิบที่เหมาะสม ผู้เล่นบางคนอาจไม่ชินกับการวิ่งและการปิดพื้นที่ในระดับนั้น ผมไม่ได้บอกว่ามันผิด แต่ถ้าไม่ระวัง ความเสี่ยงจะมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้”
สื่อกีฬาชั้นนำในสเปนอย่าง Marca และ AS ต่างรายงานตรงกันว่า คำพูดของโครสไม่ได้มีเจตนาสร้างความขัดแย้ง แต่สะท้อนมุมมองของผู้เล่นที่เข้าใจฟุตบอลในเชิงลึก เพราะเขาเองเคยเล่นภายใต้ระบบของฟลิคในทีมชาติเยอรมนี และรู้ดีว่าความเข้มข้นของระบบนี้ต้องการความพร้อมทางร่างกายและจิตใจสูงมาก หากทีมไม่มีผู้เล่นที่มีวินัยและความเข้าใจในระบบเพียงพอ ผลที่ตามมาคือการเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งโจมตีได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่บาร์ซ่าประสบอยู่ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล
แฟนบอลเรอัล มาดริดบางส่วนมองว่าคำพูดของโครสอาจเป็นการจิกกัดคู่ปรับตลอดกาลแบบอ้อม ๆ แต่ในอีกมุมหนึ่ง แฟนบอลจำนวนมากก็เห็นด้วยกับมุมมองของเขา เพราะบาร์ซ่าในยุคฟลิคยังคงแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางในแนวรับ โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่มีเกมสวนกลับรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เกมที่เสมอกับเซบีย่า หรือเกมที่แพ้ให้เรอัล โซเซียดาด ซึ่งฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้พื้นที่หลังแนวเพรสซิ่งของบาร์ซ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่ฟลิคเองก็รับรู้ถึงเสียงวิจารณ์เหล่านี้ แต่เขายืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนแนวทางการทำทีม “ผมเข้าใจคำพูดของโครส เขาเป็นคนที่รู้จักฟุตบอลเยอรมันดี แต่ผมเชื่อว่าความเสี่ยงคือส่วนหนึ่งของฟุตบอลสมัยใหม่ หากคุณอยากเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องกล้าเสี่ยง ต้องเล่นเพื่อชนะ ไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้” ฟลิคกล่าวหลังเกมล่าสุดของบาร์ซ่า พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าในแนวทางของตนต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าฟลิคอาจต้องหาจุดสมดุลใหม่ให้ทีมในระยะกลาง เพราะการเล่นเกมรุกอย่างดุดันต่อเนื่องอาจทำให้ผู้เล่นเกิดอาการล้าหรือบาดเจ็บง่าย โดยเฉพาะในลีกที่มีตารางแข่งขันแน่นหนาอย่างลาลีกา ความเสี่ยงเช่นนี้ไม่เพียงส่งผลต่อผลงานของทีม แต่ยังอาจกระทบต่อภาพรวมของฤดูกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลสามารถติดตามการวิเคราะห์เชิงลึกได้ผ่าน สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ที่นำเสนอข้อมูลแท็กติกและสถิติของทีมระดับโลกอย่างละเอียด
นอกจากประเด็นเรื่องแท็กติกแล้ว คำพูดของโครสยังสะท้อนถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมฟุตบอลระหว่างเยอรมนีกับสเปนอีกด้วย เขากล่าวว่า “ฟุตบอลสเปนมีพื้นฐานจากการควบคุมเกมและการสร้างสมดุล ส่วนฟุตบอลเยอรมันเน้นพลัง ความเร็ว และความเข้มข้น มันคือสองแนวทางที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง การผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่าย” ซึ่งคำพูดนี้ตรงกับสิ่งที่แฟนบอลหลายคนสังเกตเห็นในช่วงหลัง ว่าบาร์เซโลนากำลังอยู่ในช่วงทดลองหาสูตรที่เหมาะสมระหว่างสไตล์เทคนิคและพละกำลัง
ความเห็นของโครสยังจุดประกายการถกเถียงในวงกว้าง โดยมีอดีตนักเตะและผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น บางคนเห็นด้วยว่าแนวทางของฟลิคมีความเสี่ยงเกินไปจริง ขณะที่บางคนเชื่อว่านี่คือการปฏิวัติที่จำเป็นเพื่อพาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่บาร์เซโลนาต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของเรอัล มาดริดมาหลายฤดูกาลติดต่อกัน
ในแง่ของตัวผู้เล่น ฟลิคกำลังพยายามปรับตำแหน่งและบทบาทของนักเตะหลายคน เช่น การผลักดัน เปดรี้ และกาวี ให้มีบทบาทในเกมรุกมากขึ้น รวมถึงการใช้ ลามีน ยามาล ดาวรุ่งวัย 17 ปี เป็นตัวรุกหลักในแนวขวา ซึ่งถือเป็นการเดิมพันที่กล้าหาญ โครสกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมชอบที่เขาให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง แต่บางครั้งคุณต้องรู้จักปกป้องพวกเขาด้วย เพราะความคาดหวังในสโมสรอย่างบาร์เซโลนามันสูงมาก การผลักดันเร็วเกินไปอาจทำให้เด็กเหล่านี้เสียความมั่นใจได้”
สิ่งที่ทำให้คำพูดของโครสมีน้ำหนักมากขึ้นคือภาพลักษณ์ของเขาในฐานะนักเตะที่ยึดหลักเหตุผลมากกว่าอารมณ์ เขาไม่เคยพูดเกินจริงหรือพยายามสร้างดราม่า แต่จะวิเคราะห์สถานการณ์ตามข้อมูลและประสบการณ์ตรง ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่แฟนบอลสามารถติดตามได้ผ่าน ทางเข้า ufabet ออโต้ เข้าเร็วไม่สะดุด ที่มักนำเสนอความคิดเห็นของนักเตะระดับโลกที่อิงกับข้อมูลจริงและมุมมองทางแท็กติก ไม่ใช่เพียงความรู้สึก
ในขณะที่ฝั่งบาร์เซโลนา พวกเขายังคงเดินหน้าปรับปรุงทีมต่อไป ฟลิคให้ความสำคัญกับการสร้างจิตใจแห่งการต่อสู้และการเล่นอย่างดุดัน เขาเชื่อว่าการเล่นแบบระมัดระวังเกินไปจะทำให้ทีมเสียเอกลักษณ์และความกล้าในการไล่ล่าความสำเร็จ ซึ่งแนวทางนี้อาจใช้เวลาพิสูจน์ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ บาร์ซ่ากลับมามีชีวิตชีวาในสนามอีกครั้ง และผู้เล่นหลายคนแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แม้จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงในบางเกมก็ตาม
นักข่าวในสเปนหลายคนวิเคราะห์ว่าคำพูดของ โทนี่ โครส อาจเป็น “คำเตือนอย่างมีเจตนาดี” มากกว่าการวิจารณ์ เพราะเขาเองก็มีประสบการณ์ตรงกับโค้ชเยอรมันหลายคนที่เน้นแท็กติกแบบบีบสูง ซึ่งต้องการวินัยในเกมรับมากกว่าที่แฟนบอลส่วนใหญ่เข้าใจ และในหลายครั้ง บาร์ซ่าของฟลิคดูเหมือนยังไม่พร้อมในด้านนี้ โดยเฉพาะเมื่อขาดผู้เล่นหลักในแนวรับ เช่น โรนัลด์ อาเราโฆ หรือคอนเด้
แฟนบอลหลายคนในยุโรปมองว่า การมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบนี้ช่วยทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีชีวิตชีวาและเปิดกว้างมากขึ้น เพราะเมื่อผู้เล่นระดับตำนานอย่างโครสพูดอย่างมีเหตุผล มันจะช่วยให้แฟนบอลเข้าใจแท็กติกและมุมมองเชิงลึกของเกมมากกว่าการมองเพียงผลการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อกีฬาและแพลตฟอร์มวิเคราะห์เชิงลึกอย่าง สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม มักให้ความสำคัญในการนำเสนอข้อมูลที่ครบทุกมิติ