คอนเต้ ยอมรับเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทำให้เกมจบโดยปริยาย
อันโตนิโอ คอนเต้ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ นาโปลี คือแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอ เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นเฉพาะตัว ซิตี้คือแชมป์เก่าและตัวเต็งในทุกฤดูกาล ขณะที่นาโปลีคือแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ที่กำลังพยายามสร้างชื่อบนเวทียุโรป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้กลับไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดคิด เมื่อทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 22 ของการแข่งขัน และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมแทบจะถูกตัดสินทันที อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของนาโปลี ยอมรับหลังจบเกมว่า การเสียผู้เล่นไปตั้งแต่ต้นคือเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถสู้กับแมนฯ ซิตี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะการดวลกับทีมที่แข็งแกร่งและครองเกมได้ดีอยู่แล้ว การเหลือผู้เล่นน้อยกว่าก็แทบจะเป็นการยกธงขาวไปในตัว 2. จุดเปลี่ยน: ใบแดงที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในช่วงต้นเกม เมื่อผู้เล่นกองหลังของนาโปลีเข้าสกัดรุนแรงใส่เออร์ลิง ฮาแลนด์ในจังหวะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินไม่ลังเลชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที การเสียผู้เล่นไปหนึ่งคนตั้งแต่ยังไม่ครบครึ่งชั่วโมงแรกคือฝันร้ายของทุกทีม โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับทีมที่เน้นครองบอลและโจมตีต่อเนื่องอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากจุดนั้นเป็นต้นไป เกมของนาโปลีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แท็กติกที่วางไว้ก่อนแข่งต้องถูกปรับใหม่ทั้งหมด แผนการโจมตีที่เน้นการต่อบอลสวยงามกลายเป็นการตั้งรับลึกเพื่อประคองสถานการณ์